35 วิธีเพื่อหุ่นที่ดี

วิธีลดความอ้วน

เรารู้ว่าเพื่อการลดน้ำหนัก เราต้องรับประทานอาหารให้น้อยลง และออกกำลังกายให้มากขึ้น แต่หลายคนก็ยังรู้สึกว่าทำไม่ได้ หรือทำได้ยาก อย่างไรก็ตาม วันนี้เรามีผลการศึกษาวิจัยเรื่องการลดน้ำหนัก และลดความอ้วนที่เขารวบรวมกันมาบอกถึง 35 วิธี ลองอ่านดูซิ เผื่อคุณจะเจอวิธีที่ “ถูกจริต” จะได้ผอมดั่งใจเสียที

 1.โรยผงอบเชยลงในโยเกิร์ตทุกวัน จะช่วยเผาผลาญไขมันได้ เพราะเครื่องเทศมีส่วนในการช่วยเผาผลาญ ใส่ทุกวัน วันละครึ่งช้อนชา เพียงแค่นี้ก็จะช่วยลดน้ำหนักลงได้หลายกิโลกรัมต่อเดือน

 2.ลองแบ่งอาหารออกจากโต๊ะทำงานของคุณ จะช่วยให้คุณรับประทานอาหารในหนึ่งวันเพียง 250 แคลอรี ซึ่งน้อยกว่าผู้ที่รับประทานอาหารในระหว่างทำงาน

 3.หัวเราะอย่างสม่ำเสมอ เพียงคุณหัวเราะวันละ 10-15 นาทีต่อวัน จะช่วยเพิ่มพลังงานในการรับประทานอาหารเป็น 280 แคลอรี

 4.ดื่มน้ำแครอท 1 แก้วต่อวัน จะช่วยลดน้ำหนักลงได้ 4 ปอนด์ และหากเทียบกับผู้ที่ไม่ได้ดื่มน้ำผลไม้ จะใช้เวลาประมาณ 12 สัปดาห์ในการลดน้ำหนัก เพราะในน้ำผลไม้มีกากใยอาหารและสารอาหารที่ช่วยเผาผลาญ

 5.ฟังเพลงที่มีจังหวะในระหว่างที่ทำงาน จะช่วยป้องกันความเมื่อยล้าที่เกิดขึ้นในร่างกายได้

 6.การรับประทานเนื้อแดงจะช่วยลดน้ำหนักได้ เพราะในนั้นประกอบไปด้วยโปรตีน ที่จะช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อของคุณ กล้ามเนื้อจะเผาผลาญทุก ๆ สี่เวลา เพื่อให้ไขมันลดลงเป็นกล้ามเนื้อ

 7.อย่าออกกำลังกายคนเดียว ควรแนะนำให้เพื่อนมาออกกำลังกายด้วย เพราะมันจะทำให้คุณลดน้ำหนักได้ถึง 3 เท่า ถ้าคุณออกกำลังกายคนเดียว คุณก็จะไม่มีแรงจูงใจในการออกกำลังกาย แต่ถ้าหากมีเพื่อนมาออกกำลังกายด้วย คุณจะได้รับประโยชน์ในเรื่องของการเป็นกำลังใจให้กันและกัน

พริก

 8.กินพริกแดง ในนั้นประกอบด้วยสารแคปไซซิน ซึ่งเป็นสารทางเคมีซึ่งช่วยให้ผู้ที่ได้ลิ้มรสเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้นถึง 25%

 9.ความเครียดจากการทำงานนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะก่อให้เกิดการรับประทานที่เกินขนาด การกำหนดลมหายใจ 2 นาที โดยการเพ่งสมาธิไปยังจุดใดจุดหนึ่ง จะช่วยบรรเทาความหิวลงได้

 10.การออกกำลังกายเป็นสิ่งแรกที่ต้องทำในตอนเช้า เพราะมันจะช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกายได้เร็วขึ้น และช่วยเพิ่มการหลั่งฮอร์โมนต่าง ๆ ได้ดีกว่าการออกกำลังกายในเวลาอื่น เพราะหากออกกำลังกายในเวลาอื่น ร่างกายจะถูกบังคับให้ทำงานช้าลงและเผาผลาญได้น้อยลง

 11.รับประทานอาหาร 3 มื้อ มื้อละ 250 แคลลอรี ซึ่งเป็นอาหารว่างระหว่างมื้อที่อุดมไปด้วยโปรตีน เช่น อกไก่หั่นบาง ๆ หรือปลาทูน่าในน้ำสปริงที่มีไขมันต่ำเพียง 185 กรัม รวมทั้งขนมปังกรอบ ทั้งหมดที่กล่าวมาจะทำให้ผู้ที่รับประทานประมาณ 30% ลดน้ำหนักลงได้

 12.ปิดโทรทัศน์ในขณะที่คุณกำลังรับประทานอาหาร เพราะมันจะหยุดความฟุ้งซ่านของคุณได้ และช่วยให้คุณหยุดรับประทานอาหาร วิธีนี้สามารถช่วยให้คุณลดน้ำหนักลงได้ 3.5 กิโลกรัม (เกือบ 8 ปอนด์)

 13.เหยาะซอสถั่วเหลืองลงในอาหาร จากการวิจัยแสดงให้เห็นว่า โปรตีนในถั่วเหลืองทำปฏิกิริยากับสมอง และบอกเราว่าคุณจะรู้สึกอิ่มอยู่ตลอดเวลา

 14.หั่นอาหารให้บางลง จะช่วยให้คุณรับประทานอาหารได้น้อยลง 20%

วิ่ง

 15.ออกกำลังกายโดยวิ่งบนเครื่องวิ่ง ถือเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในห้องออกกำลังกาย เพราะมันจะช่วยเผาผลาญแคลอรีได้ในระยะเวลาอันสั้น

 16.ดื่มไวน์แดง 1 แก้วทุก ๆ วัน จะช่วยหยุดความอ้วนที่เกิดขึ้นบริเวณหน้าท้องของคุณ เพราะในน้ำองุ่นจะมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ไขมันบริเวณเอวของคุณ

 17.ฟังเพลงคลาสสิกระหว่างทานอาหาร การฟังเพลงจะช่วยผ่อนคลายระหว่างที่รับประทานอาหาร และมันจะช่วยให้คุณรับประทานอาหารน้อยลง และทำให้เคี้ยวอาหารโดยไม่เร่งรีบ ทำให้การเคี้ยวนั้นเป็นจังหวะที่สม่ำเสมอกับการทำงานภายในร่างกายของคุณ เมื่อคุณหยุดรับประทานอาหาร คุณจะรู้สึกว่าอิ่มเพียงพอ

 18.เคี้ยวหมากฝรั่งที่ปราศจากน้ำตาล หลังการรับประทานอาหาร 15 นาที หลักจากนั้น 2 ชั่วโมงเคี้ยวอีก 1 ครั้ง เพื่อระงับความต้องการอาหารว่าง

 19.มีเพศสัมพันธ์ให้มากขึ้น เพราะมันจะช่วยเผาผลาญพลังงานได้ถึง 150 แคลอรี ในทุก ๆ 20 นาที เป็นการเพิ่มฮอร์โมนที่ช่วยในการเผาผลาญ และเพิ่มกล้ามเนื้อให้เจริญเติบโตและกระชับมากขึ้น

 20.รับประทานทับทิม เพราะภายในเมล็ดทับทิมจะช่วยทำให้ร่างกายกักเก็บไขมันไว้ได้ และในความหวานของเมล็ดทับทิมจะมีฤทธิ์ยับยั้งความต้องการขนมหวาน และความหวานจากอาหารว่างได้

 21.ใช้ไฟปิ้งบาร์บีคิว เป็นการป้องกันไขมันที่จะเกิดขึ้นในขณะปิ้งให้น้อยลง

ชาเขียว

 22.จิบชาเขียว ภายในชาเขียวเต็มไปด้วยสารประกอบที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยากับกาเฟอีน เป็นการเพิ่มสารออกซิเดชั่น และช่วยทำให้ผู้ที่ดื่มชาเขียว 20% นอนหลับง่าย และยังเผาผลาญไขมันได้ดียิ่งขึ้น

 23.กินพริกคอน คาร์เน่ สัปดาห์ละครั้ง จะช่วยเพิ่มเอนไซม์ให้กับไต และสมองจะสั่งให้ร่างกายสลายไขมันจากคาร์โบไฮเดรต ในขณะที่ระบบเผาผลาญกำลังทำงาน

 24.ให้ผักโขมเป็นตัวเลือกแรกสำหรับผักใบเขียว เพราะในผักโขมรวมเอาไว้ซึ่งกากใยอาหารที่ช่วยให้ร่างกายเปลี่ยนไขมันเป็นสิ่งที่มีประโยชน์

 25.เปลี่ยนมาใช้เนยแข็งแบบธรรมดาที่ทำจากนมแพะ เพราะในเนยแข็งที่ทำจากนมแพะจะมีไขมันที่ต่ำกว่าเนยแข็งที่ทำจากนมวัวประมาณ 40%

 26.เพิ่มถั่วในอาหารทุกมื้อ จะลดน้ำหนักได้ถึง 74 กิโลกรัม (มากกว่า 15 ปอนด์) ภายในระยะเวลา 10 สัปดาห์ เพราะจะช่วยเผาผลาญไขมันได้เร็วขึ้น

 27.รับประทานอาหารที่ดี เพื่อช่วยเผาผลาญไขมัน เช่น ไข่ ผลวอลนัท เมล็ดสมุนไพรยุโรป สิ่งเหล่านี้เป็นอาหารที่ดี และช่วยลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจตีบได้

 28.ดื่มน้ำผลไม้พร้อมด้วยเกล็ดผลไม้ เพราะมันจะช่วยเพิ่มกากใยอาหาร และช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มนาน

อาหารเช้า

 29.รับประทานอาหารเช้า ผู้ที่มีระบบการเผาผลาญที่ไม่ดีควรรับประทานอาหารมื้อเช้า โดยรับประทานให้ได้มากกว่า 100 แคลอรีต่อวัน

 30.รับประทานผลแอปเปิ้ลก่อนมื้ออาหาร จะช่วยทำให้คุณบริโภคอาหารเฉลี่ยเพียง 187 แคลอรี ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อยกว่าการรับประทานอาหารปกติ โดยไม่รับประทานผลแอปเปิ้ล

 31.เหยาะน้ำมันมะกอกลงในสลัด มันมีกรดไขมันที่ดี และเป็นตัวกระตุ้นโปรตีนให้บอกกับร่างกายของคุณว่าอิ่มแล้ว เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ดีในการป้องกันการรับประทานที่มากจนเกินไป

 32.ใส่มะเขือเทศลงในแซนด์วิช มันจะเก็บกักความรู้สึกอิ่มตัวไว้ และทำให้คุณรับประทานน้อยลง เนื่องจากในผลไม้มีฤทธิ์ยับยั้งฮอร์โมน ghrelin ซึ่งเป็นสารที่ดูแลและบรรเทาอาการอยากอาหาร

 33.เว้นระยะเวลา 3 ชั่วโมง หลังการรับประทานอาหารมื้อใหญ่ เพื่อช่วยให้ระบบเผาผลาญในร่างกายของคุณทำงานได้อย่างไม่เปลี่ยนแปลง

 34.รับประทานสับปะรด เพราะไม่เพียงแค่เป็นของว่างที่ดี แต่เป็นสิ่งที่ช่วยกระตุ้นให้ระบบการเผาผลาญในร่างกายนั้นทำงานได้ดี อีกทั้งยังช่วยสลายโปรตีนได้ดีอีกทางหนึ่ง

 35.รับประทานขนมปังที่มีส่วนผสมของเมล็ดธัญพืช เพราะในนั้นจะมีกากใยอาหารที่สูง จะช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มได้นาน

  เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย 

 คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ

 

ที่มาจาก http://health.kapook.com/view45426.html

 

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

You may use these HTML tags and attributes: <a href="" title=""> <abbr title=""> <acronym title=""> <b> <blockquote cite=""> <cite> <code> <del datetime=""> <em> <i> <q cite=""> <strike> <strong>